"สปามือ" และ "สปาเท้า"
การทำ "สปามือ" และ "สปาเท้า" ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าการนวดเท้า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง วัยรุ่นไปจนถึงวัยสูงอายุ เพราะเป็นการผ่อนคลายอารมณ์อย่างหนึ่ง ราคาไม่แพง ได้ดูแลเท้าและมือ หลังจากที่ต้องใช้งานมือและเท้ามาอย่างหนัก
มือเป็นส่วนหยิบจับหิ้วของ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยกลางคนขึ้นไปด้วยแล้ว มักเกิดการอักเสบที่ข้อมือจนกลายเป็นโรคนิ้วล็อก ทั้งนี้เพราะมีการใช้มือในท่าเดิมๆ ซ้ำๆ อย่างหนักนั่นเอง ส่วนเท้านั้นเป็นอวัยวะที่ต้องรับน้ำหนักร่างกายเกือบตลอดวัน ต้องเดิน ต้องวิ่ง ทำงานอย่างหนักหน่วง และเป็นศูนย์รวมปลายประสาทของอวัยวะ 62 จุด ที่ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายทำให้ผู้คนนิยมนวดเท้าทั้งหญิงและชาย การทำ "สปาเท้า" จึงได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
"สปามือ" และ"สปาเท้า" มีการใช้สมุนไพรที่สารสกัดจากธรรมชาติควรเลือกตามกลิ่นที่ชอบ หรือดูตามธาตุ
เจ้าเรือนด้วย เพื่อให้เหมาะกับสุขภาพของคุณ
• คนธาตุดิน
น้ำมันที่ใช้จะเน้นส่วนผสมของลาเวนเดอร์ ซึ่งจะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
• คนธาตุน้ำ
น้ำมันที่ใช้จะเน้นส่วนผสมของขิง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายและระบบประสาทแข็งแรง ปลอดโปร่ง เลือดไหลเวียนสะดวก
ทำให้รู้สึกสดชื่น
• คนธาตุลม
น้ำมันที่ใช้จะเน้นส่วนผสมของโรสแมรีและมะกรูด
ซึ่งช่วยในเรื่องระบบหมุนเวียนเลือดให้สมดุล สร้างความกระปรี้กระเปร่า
• คนธาตุไฟ
น้ำมันที่ใช้เน้นส่วนผสมของโรสแมรีและดอกมะลิ ซึ่งจะช่วยให้จิตใจสงบ นอนหลับสบาย ผ่อนคลายความกังวล
ขั้นตอนการทำ
"สปามือ" และ "สปาเท้า"
เริ่มจาการแช่เท้าด้วยสมุนไพร
เช่น มะกรูด ตะไคร้ ขมิ้น
เป็นต้น
และเกล็ดเกลือคริสตัลบริสุทธิ์จากทะเลสาบเดดซี
ผสมกับน้ำมันสุคนธบำบัดที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย จากนั้นขัดเท้าด้วยเกลือหอม จะช่วยให้ผิวเท้าดูเนียน พร้อมรักษาแผลเป็นและลดรอยด่างดำ ส่วนการพอกด้วยโคลน เพื่อเติมแร่ธาตุ และเพิ่มความนุ่มให้ผิวเท้า
ก่อนจะปิดท้ายด้วยขั้นตอนการนวดด้วยน้ำมันสุคนธบำบัดตามธาตุเจ้าเรือนที่กล่าวมา
การทำเล็บมือและเล็บเท้า
•
เพราะเล็บมือ เล็บเท้าต้องทำงานหนัก
เปรอะเปื้อนสิ่งสกปรก
และมีการงอกของเล็บอยู่ตลอดเวลา
จึงต้องหมั่นทำเล็บมือ เล็บเท้า
โดยธรรมชาติทุกคนจะมีเล็บมืองอกเร็วกว่าเล็บเท้า
เล็บของเด็กยาวเร็วกว่าผู้ใหญ่
ข้อควรรู้ในการทำเล็บสำหรับการทำ "สปามือ" และ
"สปาเท้า"
• เล็บเปื้อนยางผลไม้หรือยางผัก
เป็นรอยสกปรกสีน้ำตาล ให้ใช้มะนาวผ่าซีกขัดถูซ้ำ ๆ จนหมดคราบ
• ถ้าแพ้หินขัด ใช้ครีมขัดผิวแทน
• การขัดผิว อย่าให้ผิวหนังเปียกน้ำมาก จะขัดไม่ออก
• การทาเล็บไว้นานหลายสัปดาห์ โดยไม่มีการพัก
จะทำให้เล็บเหลืองเพราะเล็มไม่ได้รับอากาศและ
แสงแดด
• น้ำสบู่ที่แช่เล็บควรใช้น้ำอุ่น จะทำให้ความสกปรกออกง่าย
• การตัดเล็บอย่าตัดให้โค้งมนเข้าไปด้านข้างเล็บ
จะทำให้เล็บขบคือเล็บเข้าไปงอกข้างใต้เล็บ ทิ่งแทงเนื้อเกิดการอักเสบ ปวด บวม
• การตัดหนังต้องมือเบา อย่าตัดจมูกเล็บมากเกินไป
ควรตัดเฉพาะส่วนที่ฉีกขาดออก
• การล้างยาทาเล็บเก่าออก ให้เอาน้ำยาล้างเล็บหยดลงไปบนก้อนสำลีให้ชื้นๆ
แล้วปิดเอาไว้บนเล็บต้องการจะล้างออก
เพื่อให้สีเก่าอ่อนตัวลง จะได้เช็ดออกง่าย
วิธีการทำเล็บมือและเล็บเท้า สำหรับ "มือ" และ
"สปาเท้า"
• ก่อนอื่นล้างยาทาเล็บเก่าที่ติดอยู่บนเล็บ
โดยใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บแตะปลายเล็บทิ้งไว้สักพักแล้วลูบออก ล้างเล็บจากนิ้วก้อยจนถึงนิ้วหัวแม่มือ แล้วใช้สำลีเช็ดไปรอบๆ เล็บ จากโคนมาปลายเล็บ
• หลังจากนั้น
ใช้กรรไกรตัดเล็บตัดเล็บให้มีความยาวเท่ากัน
ตัดที่ปลายเล็บและด้านข้างให้เป็นไปตามรูปเล็บจะได้สวยงาม
ตามด้วยการตะไบเล็บใช้ตะไบเหล็กตะไบแต่งเล็บ แล้วใช้ตะไบทรายแต่งอีกครั้ง
เพื่อให้เล็บเรียบไม่เป็นเสี้ยน
ตะไบเล็บให้ได้รูปสวยตามต้องการ และควรตะไบใปในทางเดียวกัน
ไม่ควรตะไบย้อนกลับไปกลับมา
• หลังจากนั้นแช่ทั้งเล็บมือและเล็บเท้าในน้ำอุ่นผสมสบู่ บางแห่งใช้น้ำนมผสมน้ำอุ่นสัก 10 นาที เนื่องจากน้ำนมอุ่นๆ นี้
จะช่วยให้เซลล์หนังกำพร้าที่หยาบกร้านนุ่มนวล
ทำให้ง่ายต่อการขจัดเซลล์หนังกำพร้าเหล่านี้ออกไป ระหว่างแช่ก็เหยาะน้ำมันมะกอกลงไปด้วยสัก 5-6
หยด เพื่อให้สิ่งสกปรกออกง่าย และหนังรอบๆ เล็บนุ่ม
• ต่อไปเป็นการแปรงเล็บ
ใช้แปรงแตะสบู่ แปรงเล็บ ตามความยาวเล็บและตามขวางให้สะอาด
• ลำดับต่อมาจึงใช้น้ำลูบแขนและมือพอหมาดๆ ถูขึ้น-ลง เพื่อให้ความสกปรกออก หรือใช้หินขัดแทนก็ได้
กรณีที่ส้นเท้าค่อนข้างกร้านอาจขัดด้วยหินภูเขาไฟเบาๆ แล้วล้างน้ำให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ที่เท้าก็ทำเช่นเดียวกัน
แล้วทาน้ำมันบำรุงผิวหรือมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น
• ใช้ตะไบเหล็กตักวาสลิน ทาบริเวณขอบหนังรอบเล็บ เพื่อให้หนังรอบเล็บนุ่ม ใช้เหล็กดุนหนังด้านมน เซาะรอบขอบเล็บ ด้านปลายแหลมแซะใต้เล็บเอาเศษสิ่งสกปรกออก
• ใช้กรรไกรตัดหนังค่อยๆ ตัดหนังรอบๆ เล็บอย่างเบาๆ อย่ากดลึก
แล้วใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บทาที่เล็บและใต้เล็บ ใช้น้ำสะอาดล้าง และเช็ดมือด้วยผ้าขนหนูให้แห้ง
• ต่อไปเป็นการทาเล็บ
ต้องทารองพื้นเล็บด้วยน้ำยารองพื้นเสมอ
เพื่อปกป้องกันเล็บจากน้ำยา และทำให้การเช็ดสีเล็บทำได้ง่าย
เริ่มจากนิ้วก้อยก่อนจนถึงนิ้วหัวแม่มือแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
สำหรับเล็บเท้าให้ใช้สำลีก้อนสอดระหว่างนิ้วเพื่อให้ทาง่าย
• หลังจากนั้นทาเล็บโดยเริ่มแต้มบางๆ ที่ปลายเล็บก่อน เพราะเป็นส่วนที่สีจะลอกง่ายที่สุด จากนั้นจึงเริ่มทาจากโคนเล็บขึ้นมา และทาด้านข้าง ทายาทาเล็บ 2 ครั้ง
เพื่อให้สีเล็บสวยและสีไม่บางเกินไป
เมื่อทาเสร็จอาจใช้ไม้พันสำลี
ค่อยๆ เช็ดรอบๆ เล็บ
เอาสีที่เปื้อนเลอะออกไป
แล้วจึงค่อยทาน้ำยาเคลือบสีเล็บ
ถ้าอยากให้สีสันติดทนนานๆ ควรทาน้ำยาเคลือบสีเล็บวันเว้นวัน
จะช่วยปกป้องสีเล็บไม่ให้หลุดออกไปได้นานนับสัปดาห์
♦เรียบเรียงบทความ "สปามือ และ
สปาเท้า" โดยกองบรรณาธิการ www.ok-spa.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น