วิธีการทำสปาผม สูตรครีมดีท็อกซ์ผม
ทางเลือกใหม่...เพื่อคนรักผม
ในยุคที่แฟชั่นเปลี่ยนสีผมได้รับความนิยมสูงในบ้านเรา
ไม่ว่าจะเป็นสาวใหญ่ สาวน้อย หรือชายเจ้าสำอาง ต่างย้อมสีผมให้เห็นอยู่ทุกมุมเมือง
ทว่าย้อมบ่อยครั้งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้สุขภาพเส้นผมที่เคยเงาสลวยแตกปลายหรือกระด้าง
ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดธุรกิจแนวใหม่คือ "สปาผม"
โดยพึ่งพืชสมุนไพรไทย ปัญหาของคนจำนวนมากที่ผ่านการย้อมผม เปลี่ยนสีผม ดัดผม เป่าผม
หนีบผม รวมไปถึงการใช้ยาสระผม บำรุงผมที่มีสารเคมี ทำให้ผมขาดความเงางามและเสียง่าย
ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้เริ่มมองหาวิธีการใหม่
ๆ ที่จะช่วยให้ผมกลับมามีสุขภาพดีดังเดิม
การคืนสู่ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
จึงมีการคิดสูตรแชมพูและครีมนวดสูตรต่าง ๆ ที่ทำจากสมุนไพรสด เช่น มะกรูด ขิง
ตะไคร้ ประคำดีควาย อันชัญ ว่านหางจระเข้ และถั่วเหลือง
เพื่อสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค และผู้ที่ให้บริการด้านการทำ "สปาผม"
นอกจากจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และวิธีการใช้แล้ว
ยังจะต้องมีความรู้ในเรื่องการนวดศีรษะ ต้นคอ ไหล่และหลังควบคู่ไปด้วย
ซึ่งขั้นตอนการนวดจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนที่เป็นส่วนสำคัยในการช่วยให้สุขภาพของผมและหนังศีรษะดีขึ้น
สำหรับขั้นตอนการทำ
"สปาผม"
คือขั้นตอนการดูแลหนังศีรษะและเส้นผม
ที่เริ่มจากการสระผมให้สะอาด
แล้วหมักด้วยครีมดีทอกซ์ ที่ช่วยในการล้างพิษและเชื้อโรคบนหนังศีรษะ และยังช่วยเปิดกระเปาะผม ที่จะช่วยให้เซลล์ผมงอกได้ง่าย
ในระหว่างที่หมัก จะมีการนวดศีรษะร่วมด้วย
เพื่อให้เลือดไหลเวียนหล่อเลี้ยงหนังศีรษะและรากผม แล้วทิ้งไวประมาณ 15
นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดหมาดๆ
ใส่แฮร์โทนิคบำรุงรากผม
ก่อนที่เราจะทำ
"สปาผม"
เราควรรู้เกี่ยวกับสภาพเส้นผมของแต่ละชนิดของเส้นผมเสียก่อน
ลักษณะเส้นผมของคนเราไม่เหมือนกันมีทั้งเส้นผมหนา
ผมเส้นเล็ก ผมสั้น ผมยาว บ้างผมสั้นเหมือนกัน ผมยาวเหมือนกัน
แต่ลักษณะเส้นผมไม่เหมือนกัน ทำให้การบำรุงและรักษาดูแลก็จะแตกต่างกันไปตาม
ลักษณะของเส้นผม เรามาทำความรู้จักเส้นผมก่อนการบำรุงกันดีกว่า
• ผมแห้ง กับการทำ "สปาผม"
ลักษณะของผมแห้งคือ
ผมที่ขาดน้ำหนัก ไม่มีน้ำมันจากหนังศีรษะมาหล่อเลี้ยงทำให้ผมแห้ง
และไม่มีความเงางามของเส้นผม และอาจจะส่งผลทำให้ผมแห้งเสียแตกปลาย เกิดรังแค
และหนังศีรษะแห้ง สาเหตุสำคัญของการเกิดผมแห้งเสีย คือการย้อม ดัด กัดสีผม
โดนความร้อนจากไดร์เป่าผม ความร้อนจากแสงอาทิตย์ การว่ายน้ำในสระ
หรือน้ำทะเล ก็ทำให้ผมแห้งเสียได้ ปัญหาเหล่านี้
ถ้าเราปล่อยละเลยและไม่บำรุงจะทำให้เส้นผมแห้งเสียอย่างรุนแรงได้ ดังนั้นสำหรับผมแห้งควรใช้ครีมนวดผมหลังสระและนวดบริเวณหนังศีรษะ
เพื่อกระตุ้นให้หนังศรีาะสร้างน้ำมันมาหล่อเลี้ยงเส้นผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
• ผมมัน กับการทำ "สปาผม"
เนื่องจากมีการผลิตน้ำมันจากหนังศีรษะมากจนเกินไป
ทำให้ดูเหนียวเหนอะหนะ และมีฝุ่น ละออง มาเกาะตามเส้นผม
ทำให้ผมขาดชีวิตชีวา จัดแต่งทรงผมยาก เพราะฉะนั้นคนทีมีผมมันหมั่นสระผมบ่อยๆ
ไม่ต้องใช้ครีมนวดแต่ถ้าต้องใช้ ก็นวดตรงบริเวณปลายผม เพราะถ้านวดบริเวณหนังศีรษะก็
จะกระตุ้นให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น
• ผมเส้นเล็ก กับการทำ "สปาผม"
ลักษณะของผมเส้นเล็ก
เป็นผมลีบแบนชิดหนังศีรษะ แต่เนื่องจากผมเส้นเล็กเป็นผมที่เรียงกันสวย ไม่ยุ่งเหยิง
เพราะฉะนั้นเราควรจะใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน และไม่เข้มข้นในการสระและนวด
เพราะถ้าเราใช้ครีมชโลมผมมากเกินไป ก็จะทำให้ดูลีบแบนเข้าไปอีก ดูไม่สวยงาม ดังนั้น
เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับเส้นผม
• ผมธรรมดา กับการทำ "สปาผม"
จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเพราะผมธรรมดา
จะมีสมดุลในตัวอยู่แล้ว ทำให้เส้นผมมีความนุ่ม สลวย
เงางาม ผมธรรมดาจึงใช้ผลิตภัณฑ์ได้ง่ายในการดูแลบำรุงเส้นผม แต่ถึงอย่างไรก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเส้นผมถึงจะดี
• ผมหยักศก กับการทำ "สปาผม"
ลักษณะของผมหยักศกคือหยิกตามธรรมชาติแล้วแต่ว่าผมจะหยิกมากหรือน้อย
ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม
ผมหยักศกจะจัดแต่งทรงค่อนข้างยากเพราะว่าจะจัดแต่งทรงได้เพียงไม่กี่ทรง
เนื่องจากผมจะดูชี้ฟูและแห้ง
ฉะนั้นในการดูแลผมหยักศกเบื้องต้นคือใช้แชมพูที่มีความอ่อนโยนต่อเส้นผม
เวลาแปรงผมควรแปรงด้วยความอ่อนนุ่มและเบามือ
และไม่ควรหวีผมหรือแปรงผมบ่อยหรือถ้าผมดูยุ่งก็ใช้มือสางเบาๆ ได้
นอกจากนี้เวลานวดผมควรนวดบริเวณหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นให้มีการบำรุงตามธรรมชาติ
หลังจากนั้นนวดกลางผมไล่ไปถึงปลายผม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบเจลจะดีกว่า
เพราะจะช่วยลดความหยาบกระด้างของเส้นผมได้เป็นอย่างดี
• ผมเส้นหนา กับการทำ "สปาผม"
เป็นผมที่มีน้ำหนักดูนุ่มสลวย
เวลาสะบัดผมจะดูพลิ้วไหว มีชีวิตชีวา ไม่ลีบแบน ติดหนังศีรษะ ลักษณะของผมหนา
เวลาสระผมต้องล้างให้สะอาด เพราะถ้าล้างไม่สะอาด
อาจมีสารเคมีตกค้างที่เส้นผมได้ อย่างไรก็ตามอย่าขาดการบำรุงผมจะดูยุ่ง ฟู
และขาดน้ำหนักได้
• ผมย้อม ดัด กัด โกรก หรือผมเสีย กับการทำ "สปาผม"
ในปัจจุบันนิยมที่จะย้อม
ดัด กัดโกรกเส้นผมกันมากขึ้นเพื่อให้เขากับบุคคลิก เนื่องจากการกระทำกับผมแบบนี้
อาจส่งผลทำให้ผมแห้งเสียได้
เราจึงต้องใส่ใจดูแลบำรุงมากกว่าผมแบบอื่นเป็นพิเศษ ฉะนั้นการอบไอน้ำก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม
ทำให้ผมนุ่มมากขึ้น และการหมักผมอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
ก็ช่วยให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน
และมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงเส้นผม แต่ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เพื่อผมที่ทำสี ย้อม ดัด
กัด โกรก โดยตรง
• ผมตรงยาว กับการทำ "สปาผม"
เป็นผมที่ดูแลค่อนข้างง่าย
แต่ก็ไม่สามารถจะละเลยในการดูแลได้เพราะว่าผมตรงที่ยาวมากๆ
ปลายผมก็จะต้องได้รับการดูแลด้วย
เพื่อป้องกันไม่ให้ปลายผมแห้งแตกปลาย ดังนั้นเวลาสระผม จึงต้องล้างผมให้สะอาด
และบำรุงด้วยครีมนวดผม เวลานวดควรนวดบริเวณปลายผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น เพราะน้ำมันธรรมชาติไม่สามารถมาเลี้ยงถึงปลายผมได้ เพราะฉะนั้นอย่างขาดการดูไม่อย่างนั้นแล้วผมแห้งแตกปลายแน่
แนะนำสูตรครีมดีท็อกซ์ผม
สำหรับการทำ "สปาผม" แบบง่ายๆ แต่ได้ผลดีเกินคุ้ม
• สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 1
ใช้โยเกิร์ตผสมกับน้ำมันมะกอก
หมักผมทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชม. ก่อนสระผมหรือถ้ามีเวลาให้หมักไว้นานกว่านั้น
ผมจะสวยปิ๊งจริง ๆ
• สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 2
ใช้หัวกะทิคั้นสด ๆ
ผสมกับน้ำมันมะกรูด หมักไว้ รับรองผมจะเงา ดำ มัน นุ่มแบบธรรมชาติ
• สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 3
ใช้มายองเนสหรือน้ำมันมะพร้าว
จะทำให้เส้นผมนุ่มตามธรรมชาติ
• สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 4
ใช้โยเกิร์ต
ผสมน้ำมันมะกอก ผสมไข่แดง ผสมน้ำผึ้ง สรรพคุณเกินคำบรรยาย
• สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 5
สูตรหมักผมด้วยเบียร์
สุดยอดในการทำให้เส้นผมนิ่มมาก เป็นเงางามสะท้อนแสง มีน้ำหนักและกระเด้งดึ๋ง ๆ
ซึ่งเบียร์ผลิตจากพวกธัญพืช สารอาหารเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เส้นผมได้ง่ายและปลอดภัย
โดยสามารถใช้เบียร์ยี่ห้อไหนก็ได้ ใช้บริมาณตามความยาวของเส้นผมและความหนาของเส้นผม
ปกติใช้ไม่เกิน 1/3 ของกระป๋อง นำมาผสมกับไข่แดง ทาลงบนเส้นผมที่แห้งให้ทั่วผม
ไม่ต้องทาหนังศีรษะ จากนั้นเอาผ้าหนา ไปโพกหัว เพราะเบียร์จะมีกลิ่นเหม็น
จนเส้นผมพอแห้งหรือหมาด ๆ ก็สระผมตามปกติ อาจจะต้องสระผมหลาย ๆ
รอบจนกว่ากลิ่นเบียร์จะหมดไป
เรียบเรียงบทความ
"สปาผม
วิธีการทำสปาผมและสูตรครีมดีท็อกซ์ผม ทางเลือกใหม่เพื่อคนรักผม"
โดยกองบรรณาธิการ
www.ok-spa.com